อเมทิส เป็นพลอยสีม่วงเเห่งจิตวิญญาณ ส่งเสริมพลังบวกเเห่งชีวิต

ที่มาเเละความเชื่อของอเมทิส

พลอยสีม่วงนี้มีทฝเรื่องราวเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณและความคิดสร้างสรรค์ ถ้าเรามองย้อนกลับไป ในสมัยกรีกโบราณ โรมันโบราณและอียิปต์โบราณ ต่างก็มีความเชื่อกันตรงกันว่า อเมทิสมีคุณสมบัติในการป้องกันภัย ให้ผู้เป็นเจ้าของ นอกจากนั้นยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับจุดกำเนิดของพลอยชนิดนี้ว่า กำเนิดมาจากน้ำตาของเทพไดนิซีส ซึ่งเป็นเทพเจ้าเเห่งไวน์ จึงเป็นจุดกำเนิดความนิยมให้คนสมัยนั้นแกะสลักอเมทิสเป็นเเก้วไวน์นั่นเอง

สีม่วงยังมีความเชื่อว่าเป็นสีแห่งการป้องกันภัย จึงมักจะถูกเลือกให้เป็นเครื่องประดับที่ใช้ตกแต่งโบสถ์ในสมัยโบราณ หากสังเกตดีดีตามภาพวาดทางศาสนาของยุโรป พลอยที่ถูกใช้เป็นหัวเเหวนโดยผู้นำ ทางศาสนามักจะทำมาจากอเมทิสทั้งสิ้น

นอกจากนี้ในสุสานฟาโรห์ตุตันคามุนที่โด่งดังแห่งอียิปต์ก็มีการพบอเมทิสในหลุมฝังศพด้วย

อเมทิสเเพงไหม

แม้ว่าปัจจุบันอเมทิส จะเป็นพลอยที่จัดว่าราคาเข้าถึงง่ายที่สุด เเต่สมัยก่อนราคาเทียบเท่ากับมรกตเลยทีเดียว สาเหตุที่ทำให้อเมธิสต์ราคาเข้าถึงง่ายขึ้นนั้นเป็นเพราะว่ามีการค้นพบเเหล่งกำเนิดของพลอยชนิดนี้จำนวนมากในประเทศแถบแอฟริกาและอเมริกาใต้
ด้วยความที่มีอุปทานมีมากกว่าอุปสงค์จึงทำให้มีราคาตกลงตาม จำนวนที่ล้นกว่าความต้องการนั่นเอง

สีม่วงของอเมทิสมาจากไหน

อเมิทิสในปัจจุบันพบได้มากที่สุดในประเทศบราซิล สีม่วงจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับแหล่งที่พบ อเมทิสที่พบได้จากแหล่งอเมริกามักจะพบในเป็นก้อนกินภูเขาไฟขนาดใหญ่ จึงนิยมผ่าเนื้อหินให้เห็นเนื้ออเมทิสข้างในมากกว่าเจียระไนเป็นเม็ด อเมทิส จากแหล่งในประเทศออสเตรเลีย และศรีลังกาจะมีสีที่ค่อนข้างเข้มกว่าสีจากเเหล่งอื่น

นอกจากนี้อเมทิสสองสี หรือ bi color เกิดจากการผสมกันระหว่างอเมทิส กับควอซ ซึ่งเกิดขึ้นโดยธรรมชาติในการก่อตัวของพลอย จึงเกิดเป็นพลอยสองสีซึ่งจะนิยมขายในรูปเเบบที่เจียรไนให้เห็นรูปลักษณะพิเศษของสีที่ไล่กัน

ไม่ว่าผู้ซื้อจะชื่นชอบสีม่วงเฉดไหนก็สามารถเลือกได้โดยไม่เกี่ยงสี เพราะอเมทิสมีทั้งสีม่วงอ่อน Lavender ไปจนถึงสีม่วงเข้มที่พบได้จากเเหล่งเเอฟฟริกานั่นเอง